Error message

  • Deprecated function: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; views_display has a deprecated constructor in require_once() (line 3066 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/bootstrap.inc).
  • Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

เปิดบ้านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Peaceful Death

-A +A

          ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบัน เฟซบุ๊ก (Facebook) ทำหน้าที่เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร เผยแพร่ข้อมูลความคิดกันอย่างกว้างขวาง แม้กระทั่งองค์กรเพื่อสังคมหรือบริษัทธุรกิจ ยังต้องอาศัยเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ และพูดคุยกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยมีกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กอย่างน้อย ๑๕ ล้านคน ในปี ๒๕๕๖

          โครงการเผชิญความตายอย่างสงบ เครือข่ายพุทธิกา คิดว่าเฟซบุ๊กน่าจะเป็นช่องทางในการเผยแพร่แนวคิดของโครงการเผชิญความตายอย่างสงบไปยังสังคมออนไลน์เช่นกัน จึงได้เริ่มสร้างบัญชีแฟนเพจ ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ โดยใช้ชื่อว่า Peaceful Death แทนที่จะใช้ใช้ชื่อภาษาไทยว่า เผชิญความตายอย่างสงบ เนื่องจากเกรงว่าจะน่ากลัวและหนักหน่วงเกินไปสำหรับผู้ชม

          ในสองปีแรก ผู้ดูแลแฟนเพจโพสต์ (post) เนื้อหานานๆ ครั้ง เพราะทีมงานที่ดูแลเฟซบุ๊กมีเพียงคนเดียว โดยเน้นคติธรรมจากพระไพศาล วิสาโล ซึ่งมีคำบรรยายและข้อเขียนที่กล่าวถึงการเผชิญความตายอย่างสงบไว้หลายแห่ง รวมถึงยังมีบทความจากจดหมายข่าวอาทิตย์อัสดงบ้างเป็นครั้งคราว

          จนกระทั่งปลายปี ๒๕๕๕ ทีมงานเผชิญความตายอย่างสงบสังเกตเห็นว่า แฟนเพจของ Peaceful Death เป็นกลุ่มเดียวกับผู้ชมที่ติดตามพระไพศาล วิสาโล จึงกลับมาปรับปรุงเนื้อหาให้มีความหลากหลายขึ้น เช่น มรณานุสติของพระอาจารย์หรือฆราวาสท่านอื่น การเจริญมรณานุสติในชีวิตประจำวัน สื่อบันเทิงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตและความตาย กิจกรรมของภาคีที่ทำงานเรื่องชีวิตและความตาย ตลอดจนการเปิดพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยนในประเด็นเผชิญความตายอย่างสงบ

          พร้อมๆ กับมีเพื่อนๆ มาร่วมหาเนื้อหาและโพสต์บทความมากขึ้น ผมเอง (admin 814) ก็เข้ามาร่วมดูแลแฟนเพจเมื่อปลายปีที่แล้ว เนื้อหาในแฟนเพจจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องและหลากหลายขึ้น จนมีความถี่ในการโพสต์เนื้อหาวันละ ๑ ครั้งในปัจจุบัน

          ความคิดเห็น (comment) ในแฟนเพจก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน จากเดิมที่มีแต่คำว่า “สาธุ” ผู้ติดตามแฟนเพจก็เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนมากขึ้น บางคนก็มาสะท้อนความคิดที่น่าสนใจ บางคนก็เข้ามาตั้งคำถาม หรือติดตามไถ่ถามข่าวคราวของโครงการ ทำให้ทางทีมงานชื่นใจและรู้สึกอบอุ่น การพูดคุยเรื่องความตายดูจะมีความผ่อนคลายและเป็นธรรมดามากขึ้น อย่างน้อยในโลกออนไลน์ซึ่งมีผู้ติดตามแฟนเพจแล้วประมาณ ๘ พันคน

          ผมสังเกตว่าผู้ติดตามเนื้อหาใน Peaceful Death เฟซบุ๊กแฟนเพจ มีความสนใจเนื้อหาที่เข้มข้น ติดตามอ่านอย่างจริงจัง ไม่รู้สึกลำบากที่จะอ่านเนื้อหายาวๆ จนจบ โดยเฉพาะโพสต์ที่มีความแรง มีถ้อยคำที่กระตุกเตือนสติอย่างชัดเจน จะมีจำนวน Like และการแสดงความคิดเห็นมากกว่าโพสต์ในลักษณะอื่นๆ เช่น

          เราเกิดมาอย่างเดียวดายและเปลือยเปล่า ขณะที่ชีวิตดำเนินไป เราได้ผ่านพบความผันแปรทุกรูปแบบ อยากได้ใคร่มี ได้มา เสียไป เป็นทุกข์ ร่ำไห้ เพียรพยายาม         

          ...แต่แล้วเราก็ตาย และตายเพียงลำพังเท่านั้น ไม่ว่าเราจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก มีชื่อเสียงหรือไม่เป็นที่รู้จัก ความตายเป็นผู้เลิศในการสร้างความเท่าเทียมให้กับทุกชีวิต ในสุสาน ศพทุกร่างล้วนเหมือนกัน         

          จากหนังสือ "สู่ความตายอย่างสงบ" โดย ชักดุด ตุลกู รินโปเช 

          นี่คือโพสต์แรกที่มียอด Like เกิน ๕๐๐ ในประวัติศาสตร์การเปิดเพจ Peaceful Death

          โพสต์เกี่ยวกับหลักการเจริญมรณานุสติ ที่ให้วิธีการเป็นรูปธรรมชัดเจน ปฏิบัติตามได้ไม่ยากในชีวิตประจำวัน ก็เป็นลักษณะเนื้อหาที่ผู้ชมให้ความสนใจเช่นกัน เช่น


          หลักการเตรียมตัวเพื่อการจากไปอย่างสงบ ๒ แบบ

          ๑) เตรียมตัวในภาวะปกติ คือ ให้หมั่นเจริญมรณสติเสมอว่าความตายเป็นของแน่นอน เพราะเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ จะตายอย่างไร ที่ไหน ด้วยสาเหตุอะไร จึงต้องพิจารณาและเตรียมใจว่าความตายมาเยือนเราได้เสมอ เวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ไปงานศพ ก็ให้น้อมเข้ามาใส่ตัวว่าวันหนึ่งเราอาจเป็นอย่างเขา และคิดว่าถ้าจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างเขาเราจะทำอย่างไร ให้เป็นการบ้านที่สอนใจเราอยู่ตลอด

          ๒) เตรียมตัวภาวะไม่ปกติ คือ เวลาเจ็บป่วย พลัดพราก สูญเสีย ให้มองว่าความเจ็บปวด พลัดพราก สูญเสียนั้นเป็นการซักซ้อมของความตาย อย่าตีโพยตีพายหรือทุกข์กับมัน ควรรักษาใจให้เป็นปกติ ฝึกสติให้เห็นความเจ็บแต่ไม่ใช่ผู้เจ็บ จะทำให้เราแคล่วคล่องว่องไวเมื่อเผชิญความทุกข์ในวาระสุดท้ายได้ 

          เป็นโพสต์ที่มียอด Like สูงสุดเป็นประวัติการณ์

          นอกจากนี้ ยังมีโพสต์ที่เปิดพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยน ตั้งคำถามสนทนาถึงประเด็นความตาย ซึ่งก็มีผู้เข้าร่วมสนทนามากขึ้นเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งทีมงานตั้งคำถามกับผู้ชมว่า “ในปกติประจำวัน เราใช้คำสละสลวยใดแทนคำว่าตายบ้าง” ไม่น่าเชื่อว่าลูกเพจจะร่วมกันระดมคำสละสลวยที่ใช้แทนคำว่า “ตาย” ได้มากกว่า ๑๒๐ คำ (ใส่ link cover photo ดังนี้ http://goo.gl/4AeK1w)


          การมีส่วนร่วมดังกล่าวทำให้ทีมงานมีกำลังใจที่จะพัฒนาเนื้อหาและกิจกรรมในอนาคต ทีมงานยังคิดถึงกิจกรรมทำให้ผู้ชมเนื้อหาในแฟนเพจได้มาร่วมกิจกรรม พบเจอกันอย่างเห็นหน้าเห็นตากันมากขึ้น เพราะโพสต์และความคิดเห็นในโลกออนไลน์นั้นคงโต้ตอบกันได้เพียงครั้งละสั้นๆ แต่การพบปะแลกเปลี่ยนในโลกจริงนั้นย่อมจะมีโอกาสในการแบ่งปันความรู้ ความคิด มิตรภาพในมิติที่ลึกซึ้งขึ้น

          ผู้อ่านจดหมายข่าวอาทิตย์อัสดงท่านใดยังไม่ได้เป็นสมาชิกเฟซบุ๊กแฟนเพจ Peaceful Death เข้าไปที่ https://www.facebook.com/peacefuldeath2011 แล้วกด Like ได้เลยครับ ส่วนท่านใดที่เป็นสมาชิกอยู่แล้วมีคำแนะนำ ติชม หรือมีความคิดเห็นจะแบ่งปัน สนทนากับเราได้ที่ inbox ครับ

คอลัมน์:

ผู้เขียน:

คำสำคัญ: