Error message

  • Deprecated function: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; views_display has a deprecated constructor in require_once() (line 3066 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/bootstrap.inc).
  • Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

จ่อขยายหน่วยดูแล “ผู้ป่วยระยะท้าย” โรงพยาบาลหมื่นแห่ง เป็นของขวัญปีใหม่

-A +A

         กระทรวงสาธารณสุขเตรียมขยายระบบดูแลผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต หนุนโรงพยาบาลกว่าหนึ่งหมื่นแห่ง ตั้งหน่วยบริการคุณภาพชีวิตทั้งในโรงพยาบาล และบ้าน ช่วยบรรเทาทุกข์จากการเจ็บป่วยทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ หลังนำร่อง โรงพยาบาล ๑๖ แห่งแล้วได้ผลดี หวังเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทย 

         วันที่ ๑๑ ธ.ค. ๒๕๕๗ ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กทม. นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง/ระยะสุดท้าย จากโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลในสังกัดกรมวิชาการ จำนวน ๔๐๐ คน ว่า 

         ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตปีละประมาณ ๓ แสนคน แนวโน้มส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น โรคที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตอันดับหนึ่ง คือ มะเร็ง ปีละประมาณ ๖ หมื่นคน ซึ่งโรคเรื้อรังดังกล่าวมีระยะการก่อโรคเป็นเวลานาน และในระยะสุดท้ายซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการใดๆ แล้ว อาจก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน 

         สธ. มีนโยบายพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยประเภทนี้ โดยสนับสนุนให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง จัดตั้งหน่วยบริการคุณภาพชีวิตที่โรงพยาบาลและมีทีมไปดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ให้ผู้ป่วยอยู่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี เท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ มีระบบการให้คำปรึกษาและประสานงานส่งต่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยจะได้รับการดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จิตวิญญาณตามหลักศาสนา ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์พัฒนาด้านวิชาการ เทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ เริ่มดำเนินการในโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดกรมการแพทย์ ๑๖ แห่งแล้ว พบว่าได้ผลดีมาก

         “ในปี ๒๕๕๘ เป็นต้นไป จะขยายผลดำเนินการในโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดทั่วประเทศ คือ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการ รวมทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวมกว่าหนึ่งหมื่นแห่ง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนไทย แนวทางการดูแลดังกล่าว เป็นการประสานความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วยเป็นสหวิชาชีพ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ นักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา นักโภชนากร เภสัชกร จิตอาสา นักบวชในศาสนาต่างๆ และที่สำคัญคือครอบครัวของผู้ป่วย” รมช.สาธารณสุข กล่าว

         นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า แนวทางการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง (Palliative Care) เป็นแนวทางการดูแลที่องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญ และมีการดูแลแบบประคับประคอง/ระยะสุดท้าย เกือบทุกประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยมีการดำเนินการดูแลแบบประคับประคอง/ระยะสุดท้าย มาเป็นเวลามากกว่าหนึ่งทศวรรษ แต่ยังไม่ครอบคลุมโรงพยาบาลทั่วประเทศ การดูแลจะเน้นทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ โดยมุ่งเน้นบรรเทาอาการทุกข์ทรมาน บำบัดตามอาการที่ปรากฏ เช่น การให้ยาบรรเทาอาการปวด รวมทั้งการใช้ศาสตร์แขนงต่างๆ มาร่วมในการให้การดูแล เช่น ความเชื่อทางศาสนา ดนตรีบำบัด การนวดประคบ การทำสมาธิ ฯลฯ เปิดโอกาสให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง

         “หากผู้ป่วยต้องการกลับไปใช้ชีวิตระยะสุดท้ายที่บ้าน ครอบครัว/ผู้ดูแลจะได้รับคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านด้วยตนเอง โดยครอบครัว/ผู้ดูแลสามารถโทรมาขอคำปรึกษาได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งมีหน่วยเยี่ยมบ้านไปช่วยดูแล/ช่วยเหลือตามสภาพอาการของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงระยะท้ายของชีวิต” นพ.สุพรรณ กล่าว

ที่มา: โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗

 

คอลัมน์:

ผู้เขียน: