Error message

Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

หมอเลือกตายอย่างไร

-A +A

           หมอมีการรักษาทางการแพทย์ที่ดีที่สุดอยู่ในมือ พวกเขาอ่านวารสารต่างๆ ที่ตีพิมพ์การค้นพบใหม่ล่าสุดทางการแพทย์ รู้เรื่องการรักษาที่ทันสมัยที่สุดเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและโรคต่างๆ พวกเขาอาจจะเคยเล่นกอล์ฟกับศัลยแพทย์มือหนึ่งด้วยซ้ำไป ถึงกระนั้นเมื่อเผชิญกับความตาย หมอหลายคนกลับปฏิเสธการรักษาทางการแพทย์แบบเข้มข้น

           เคน เมอร์เรย์ เขียนในนิตยสาร Zócalo Public Square ว่า หมอ “ไม่ตายเหมือนพวกเรา” เนื่องจาก “พวกเขารู้เรื่องการแพทย์สมัยใหม่มากพอที่จะรู้ถึงขีดจำกัดของมัน” ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ส่วนมากมักจะพบเห็นการรักษาที่ไร้ประโยชน์อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ที่ไร้ประสิทธิภาพ การผ่าตัดที่ไม่จำเป็น การรักษาด้วยยาที่สิ้นเปลือง ผู้ป่วยจึงถูกแขวนติดอยู่กับสายน้ำเกลือ และเครื่องมือต่างๆ หลายสัปดาห์หรือหลายเดือนก่อนจะตายไป

           “หมอเพื่อนร่วมงานบอกผมนับครั้งไม่ถ้วน เรียบเรียงเป็นคำพูดได้ประมาณว่า ‘ให้สัญญากับฉันนะ ถ้าคุณเห็นฉันอยู่ในสภาพแบบนี้ คุณจะต้องฆ่าฉัน’ ” เมอร์เรย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางคลินิกของแผนกอายุรกรรมครอบครัวแห่งมหาวิทยาลัยยูเอสซีกล่าว 

           “พวกเขาหมายความเช่นนั้นจริง บุคลากรทางการแพทย์บางคนห้อยเหรียญขนาดใหญ่ที่ประทับคำว่า ‘no code’ เพื่อแจ้งไม่ให้หมอใช้การช่วยฟื้นคืนชีพกับพวกตน ผมเคยเห็นแม้กระทั่งที่เป็นรอยสัก”

           ระบบการแพทย์ของเราสนับสนุนให้หมอและเจ้าหน้าที่ตรวจผู้ป่วยที่กำลังจะตายอย่างละเอียดถี่ถ้วน รูปแบบการให้บริการดังกล่าวสร้างรายได้แก่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และบ่อยครั้งที่ญาติผู้หมดหวังก็ดึงดันให้กู้ชีวิตด้วยหนทางต่างๆ อย่างไรก็ตาม หมอหลายคนยอมรับว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่าจำนวนวันที่เรายังมีลมหายใจอยู่บนโลกนี้ เมอร์เรย์ยกตัวอย่างว่า

           เมื่อหลายปีก่อน ชาร์ลีย์ หมอกระดูกผู้ได้รับความนับถืออย่างสูงและเป็นอาจารย์ของผม พบก้อนเนื้อในช่องท้อง จึงให้ศัลยแพทย์ตรวจและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับอ่อน ศัลยแพทย์ท่านนี้จัดว่ามีฝีมือดีที่สุดในประเทศ เป็นผู้คิดค้นวิธีการใหม่ๆ เพื่อจัดการก้อนมะเร็งดังกล่าวซึ่งทำให้อัตราความสำเร็จในการยืดอายุผู้ป่วยออกไปอีก ๕ ปี เพิ่มขึ้น ๓ เท่า คือจากร้อยละ ๕ เป็นร้อยละ ๑๕ แม้จะมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ แต่ชาร์ลีย์ไม่สนใจ เขากลับบ้านในวันรุ่งขึ้น ยุติภารกิจและไม่ได้ย่างกรายไปที่โรงพยาบาลอีกเลย เขาให้เวลากับครอบครัวและดูแลอารมณ์ความรู้สึกอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลายเดือนต่อมา เขาเสียชีวิตที่บ้านโดยไม่ได้รับยาเคมีบำบัด การฉายแสง หรือการผ่าตัดรักษาใดๆ 

           ในความเห็นของเมอร์เรย์ การรักษาตัวที่บ้านเป็นเรื่องน่าดึงดูดใจ และเป็นทางเลือกที่ปฏิบัติได้ แทบทุกคนสามารถหาวิธีเพื่อจะตายอย่างสงบที่บ้านได้ และเราสามารถจัดการกับความเจ็บปวดได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา สถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายซึ่งเน้นการเตรียมผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้มีความสุขสบายและมีศักดิ์ศรีมากกว่าการรักษาที่ไร้ประโยชน์ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีบั้นปลายชีวิตที่งดงามกว่ามาก น่าประหลาดใจเมื่อมีการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลในสถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย มักจะมีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ป่วยโรคเดียวกันที่แสวงหาการรักษาอย่างถึงที่สุด

           บรรดาหมอที่เลือกวิธีการต่างจากที่ปฏิบัติตามๆ กันมาแต่เดิมในการดูแลช่วงสุดท้ายของชีวิตเหล่านั้น อาจจะทำให้พวกเราได้ใคร่ครวญถึงวิธีการที่เราจะใช้กับคนที่เรารักหรือกับตัวเราเอง ...

 

นานาทรรศนะ: 

มารี เดอ ชอง 

           ฉันตัดสินใจอย่างเดียวกันเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันค้นพบมากขึ้นๆ ว่าหลายคนที่รู้จักในวัยสี่สิบหรือมากกว่านั้น ต่างก็คิดอย่างเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องทำวิจัยเยอะแยะหรือต้องมีประสบการณ์ชีวิตมากมายเพื่อจะค้นพบความจริงเชิงสถิติเกี่ยวกับจำนวนปัญหาสุขภาพที่รักษาไม่ได้ เหมือนกับที่เพื่อนของฉันเคยบอกไว้เมื่อตอนที่เขาป่วยว่า ในทางปฏิบัติหมอจะฆ่าเธอเพื่อยืดอายุของเธอออกไป ซึ่งอาจจะเป็นเวลาที่ยาวขึ้นอีกเพียงนิดเดียว

 

บ๊อบ ครอคเฮลท์ 

           ระบบการแพทย์ของเรา หลอกล่อให้เรายอมรับการรักษาซึ่งเพิ่มเวลาอยู่รอดอย่างมากสุดเพียงแค่สองสามเดือน ในขณะที่สร้างผลข้างเคียงอันน่ากลัว พวกเราต้องยอมรับว่าโรคบางชนิดไม่สามารถรักษาได้ และการรักษาที่ดีที่สุดคือการบรรเทาความเจ็บปวด ความกังวล และผลกระทบเฉพาะที่ (เช่น ของเหลวที่เกิดขึ้นในอก หรือช่องท้อง เป็นต้น) ซึ่งนำไปใช้ได้ในกรณีของโรคมะเร็ง โรคตับล้มเหลว โรคหัวใจล้มเหลว โรคจิตเสื่อม (จากความผิดปกติของสมองและจิตใจ) และกรณีอื่นๆ อีกมากมาย

 

จอห์น โดนัลสัน

           ภรรยาผมเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้จากโรคมะเร็งหลอดอาหารที่แพร่กระจายไปสู่ปอดทั้งสองข้างและสมอง พวกเราตัดสินใจพลาดที่ให้ฉายรังสีบริเวณมะเร็งลำคอด้วยหวังว่าจะทำให้ก้อนมะเร็งหดตัวและทำให้ภรรยาของผมสามารถทานอาหารผ่านทางปากได้อีกครั้ง การฉายรังสีไม่ได้ผลและท้ายที่สุดต้องสอดสายให้อาหารทางหน้าท้อง โชคไม่ดีที่การฉายรังสีทำให้ร่างกายของเธอผลิตเสมหะในปริมาณมาก ส่งผลให้นอนหลับยาก ผมไม่เชื่อว่าภรรยาผมจะมีชีวิตยืดยาวออกไปได้หากไม่ได้รับการฉายรังสี แต่มันก็ทำให้ชีวิตของเธอยุ่งยากขึ้นเล็กน้อยจนถึงช่วงปลาย นับว่าเธอโชคดีมากที่ไม่ปวดและไม่ต้องพึ่งพาสิ่งบรรเทาปวดแรงฤทธิ์ใดๆ ที่เราหามาได้ เธอเสียชีวิตอย่างสงบและพวกเราได้อยู่ด้วยกันจนวินาทีสุดท้าย

แปลจาก “How Doctors Choose to Die”

 

คอลัมน์: