Deprecated: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; views_display has a deprecated constructor in /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/sites/all/modules/views/includes/view.inc on line 2545
การทำทองเลนเพื่อเกื้อกูลผู้อื่น | โครงการเผชิญความตายอย่างสงบ

Error message

Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

การทำทองเลนเพื่อเกื้อกูลผู้อื่น

-A +A

 

จากหนังสือเรื่อง ประตูสู่สภาวะใหม่ ของ โซเกียล รินโปเช


         การทำทองเลน คือ การฝึกภาวนาเพื่อเกื้อกูลผู้อื่น โดยมีหลักการ คือการเปิดใจรับเอาความทุกข์ ความเจ็บปวดของผู้อื่นมาที่ตัวเราและเปิดหัวใจ ส่งผ่านความดี ความสุข ความปิติ ความกรุณา ความเข็มแข็งของเราให้ผู้นั้น ใช้สำหรับเยียวยาตัวเองหรือผู้อื่น หรือใช้เพื่อยอมรับความผิดพลาดของตัวเองหรือผู้อื่น

         การดูแลด้วยหัวใจสำคัญกว่าเรื่องเทคนิค ใจที่มีเมตตา มีความเห็นอกเห็นใจ ความเป็นเพื่อน ส่งความปรารถนาดีผ่านทางการสัมผัส เช่น กุมมือของผู้ป่วยไว้ สัมผัสด้วยเมตตา อาจสื่อได้ด้วยน้ำเสียง แววตา ผู้ป่วยจะรับรู้ได้ แม้อยู่ในภาวะโคม่าก็ตาม

         นอกจากวิธีเหล่านี้ ก็อาจจะมีวิธีอื่นที่ทำให้เกิดพลังแห่งความเมตตาส่งไปที่ตัวผู้ป่วยได้ สัมผัสผู้ป่วยในขณะที่ใจเมตตา นึกภาวนาให้เขาหายจากโรคร้ายด้วยใจสงบนิ่ง แม้จะไม่พูดเลย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจเราจะมีพลัง และเป็นวิธีง่าย ๆ ที่สื่อไปถึงเขาได้

         พระไพศาล วิสาโล ประยุกต์กระบวนการทำทองเลนมาใช้ในการฝึกอบรม “เผชิญความตายอย่างสงบ” ของเครือข่ายพุทธิกา

         ขั้นตอนการทำทองเลนแบบประยุกต์สำหรับทำกับตัวเอง โดยน้อมใจตามคำกล่าว ดังนี้

         นั่งตามสบาย หายใจเข้า-ออกด้วยความผ่อนคลาย น้อมจิตให้อยู่กับลมหายใจ รู้ถึงลมหายใจเข้า-ออก ปล่อยวางความคิดทั้งมวลไว้ชั่วคราว ให้ใจอยู่กับปัจจุบัน รับรู้ถึงลมหายใจเข้า-ออก

         ให้นึกถึงเขา เอาใจไปสัมผัสรับรู้ความเจ็บปวดของเขา หรือนึกในใจว่าถ้าเราอยู่ในสภาวะอย่างเขา เราจะเป็นอย่างไร หรือเรียกว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา

         เรารู้สึกรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับกายของเขาไม่ว่าจะเป็นที่ปอด หัวใจ หรือส่วนที่โรคร้ายเกาะกุมร่างกายของเขาอยู่

         ในใจของเรานั้น เปี่ยมไปด้วยความเมตตา

         ให้นึกในใจ หรือสร้างภาพให้เห็นขึ้นในใจของเราว่า มีควันพวยพุ่งขึ้นมาจากร่างกายที่เจ็บปวดของเขา ส่วนที่เจ็บปวดทรมาน ความเจ็บปวดทรมานแสดงออกมาเป็นควันที่ดำคล้ำ  ลอยขึ้นมาจากอวัยวะที่ถูกโรคร้ายเกาะกุมอยู่ เห็นชัดเจนว่ากลุ่มควันลอยขึ้นมาจากร่างที่เจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกายก็ตาม  ให้ ใจของเราเปิดรับ น้อมเอาความเจ็บปวดที่แสดงออกมาเป็นควันดำ ลอยขึ้นมาเป็นสายเข้ามาในตัวเรา เปิดใจให้กว้าง อย่างไม่เห็นแก่ตัว น้อมเอาความทุกข์ของเขามาที่ตัวเรา ควันสีดำที่ลอยมาที่ตัวเรา มาสู่ใจของเรา ควันนั้นก็ค่อย ๆ ขจัดความเห็นแก่ตัวของเรา ความยึดถือในตัวเราได้ถูกควันนั้นกัดกร่อนทำลาย ให้ความยึดถือในตัวเราลดน้อยลงไป ให้น้อมว่าเราได้รับความทุกข์จากตัวเขาได้มากแล้ว ใจที่เปิดกว้างก็ยิ่งน้อมรับความทุกข์ของเขาได้มากขึ้น

         เริ่มเบา ยิ่งความเห็นแก่ตัวที่ลดลง จิตก็เปล่งเป็นสีขาว และจิตที่เห็นแก่ตัวก็ได้ถูกทำลายลงไป ให้แผ่รังสีขาวนวลจากใจของเราที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว ได้แผ่เมตตาไปที่ตัวผู้ป่วย ให้อาบรดไปที่ตัวผู้ป่วย ให้ความปรารถนาดีไปเยียวยาความทุกข์ของเขา ให้เขาบังเกิดความสดชื่น แจ่มใส เป็นสุข มีกำลังใจ นึกถึงเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ขณะที่ได้รับรังสีขาวแห่งความเมตตา ไม่มีความเห็นแก่ตัว ให้รังสีสีขาวนวลได้อาบรดร่างกายของเขา ได้เยียวยาตัวเขา  ได้เวลาพอสมควร ให้เราค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

         ระยะเวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง

 

ที่มา: