Error message

Deprecated function: The each() function is deprecated. This message will be suppressed on further calls in menu_set_active_trail() (line 2385 of /home/budnetorg/domains/budnet.org/public_html/sunset/includes/menu.inc).

เรื่องเล่าของพระธนภัทร ฉนฺธมฺโม

-A +A

         อาตมาเป็นพระรูปหนึ่งในอำเภอครบุรีที่มีโอกาสไปอบรม โครงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ของเครือข่ายพุทธิกา นับว่าเป็นโชคดีของอาตมาเหมือนได้ถูกเลขรางวัลที่ 1 ก็ว่าได้เพราะเป็นโอกาสทองที่ได้ทำคุณงามความดีกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายเพราะตัวอาตมานั้นก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายว่าเขามีวิธีที่จะพูดหรือช่วยเหลือเขาได้อย่างไรถึงจะตรงตามความต้องการของเขาเพื่อเขาหรือตัวผู้ป่วยเองเมื่อจากไปแล้วสงบหมดกังวลในสิ่งที่ค้างคาในจิตใจได้ทำสิ่งที่ต้องการก่อนตาย

         จำได้ว่าเมื่อคนเราพูดถึงเรื่องความตายมักจะกลัวโดยที่ไม่คำนึงถึงว่าสักวันเราต้องตายเหมือนกันโดยไม่มีสิทธิ์ที่อยู่หรือจะตายเพราะเป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติแต่มีสิ่งหนึ่งที่ตัวเราเองมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะตายแบบไหน เช่น ตายจากไปด้วยอาการอันสงบ หรือบางคนยังมีห่วงอยู่ก็มักจากไปในอาการที่ไม่สงบเพราะยังมีห่วงอยู่ในสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จแต่ต้องมาตายเสียก่อน อาตมากลับนึกถึงความเป็นจริงของโลกนี้ว่าทุกคนเกิดมาต้องตาย ต่างกับตอนอาตมายังไม่ได้บวชเข้ามาศึกษา เวลานั้นอาตมากลัวตายเป็นอย่างมากไม่อยากจะเห็นงานศพที่ไหนไม่กล้าที่เข้าไปช่วยงานศพ กลัวที่จะเห็นสิ่งต่างๆ ที่ตัวของเราเองจินตนาการเอาไว้ ทั้งๆ ในความเป็นจริงเขากับเราก็ไม่ต่างกันเพราะยังไงก็ตายเหมือนกัน

         เมื่ออาตมาได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ในทางธรรมประกอบกับได้ไปอบรมโครงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของเครือข่ายพุทธิกา ทำให้อาตมารู้อย่างหนึ่งว่าชีวิตของคนแต่ละคนนั้นมีความต้องการไม่เหมือนกัน บางครั้งเมื่อเกิดความเจ็บป่วยใกล้เสียชีวิต คนเราทุกคนมักคิดถึงสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ อยากจะทำให้เสร็จก่อนที่ตัวเองจะจากโลกนี้ไป เช่น ครั้งหนึ่งอาตมาได้ผ่านการอบรมโครงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายมาใหม่ร้อนๆ อยู่ ก็ได้มีโอกาสไปดูแลผู้ป่วยเป็นครั้งแรกซึ่งในวันแรกที่อาตมาไปเยี่ยมผู้ป่วย ให้กำลังใจกับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลครบุรี ตอนนั้นอาตมามีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ใช้วิชาความรู้ที่อบรมมาให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก เลยเตรียมเอกสารความรู้ต่าง ๆ ที่ได้รู้มาพร้อมที่จะนำไปใช้ในครั้งนี้ แต่เมื่อไปถึงแล้วความตั้งใจของอาตมาที่เตรียมเอกสารหรือความรู้ต่าง ๆ ต้องทิ้งลงไปหมดต้องไปเริ่มเรียนรู้กับตัวผู้ป่วยใหม่หมด เพราะตัวผู้ป่วยเองนั้นล่ะ คือ ครูในการสอนให้เราเข้าใจสภาพปัญหาของตัวผู้ป่วยเอง

         การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายไม่มีรูปแบบที่ตายตัว คือต้องใช้ประสบการณ์ล้วนๆ ถึงจะทำให้เข้าใจความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ หรือคลายปมในใจของเขาได้ เพราะผู้ป่วยคนแรกที่อาตมาไปดูแลเขานั้นเป็นผู้ป่วยเกี่ยวกับระบบสมอง ซึ่งไม่สามารถที่จะรับรู้ในการมองเห็น หรือแม้แต่การพูดออกมาเป็นคำพูดก็ไม่สามารถทำได้ เมื่ออาตมาได้พบเขาอาตมาก็ได้พยายามที่จะสื่อสารกับเขาจนอาตมายังคิดกับตัวเองเราเหมือนกับคนบ้าที่มานั่งพูดอยู่คนเดียวทำให้ระยะแรกๆ อาตมามีความรู้สึกอึดอัดใจอยู่เหมือนกัน เพราะพูดกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถตอบสนองกับคำพูดของอาตมาได้เป็นสิ่งที่ตัวอาตมาเองก็ไม่เคยเจอมาก่อน จะทำยังไงดี

         อาตมาเมื่อกลับมาจากโรงพยาบาล อาตมาเลยเอาสิ่งเหล่านั้นมาคิดดู แล้วก็ได้พบความจริงอย่างหนึ่งว่า การที่จะพูดคุยกับผู้ป่วยให้รู้เรื่องเข้าใจได้นั้นต้องใช้ใจในการสื่อสารเท่านั้นจึงจะรู้ในสิ่งที่เขาต้องการ และแก้ไขคลายปมปัญหาของเขาลงได้

         จากวันนั้นเป็นต้นมาอาตมาก็พยายามศึกษาเรียนรู้จากผู้ป่วย และบุคคลรอบข้างของผู้ป่วยว่าเป็นอย่างไร สิ่งแวดล้อมดีพอหรือไม่ เวลาเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยต้องทำอย่างไร และจะได้แนะนำญาติๆ ของผู้ป่วยว่าการดูแลผู้ป่วยนั้นต้องดูแลอย่างไร ตั้งแต่วันแรกที่อาตมาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

         จนปัจจุบันนี้อาตมาคิดว่าการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ต้องเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างอีกมากมาย และต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา                 

ที่มา: